บทสรุปของผู้บริหาร
รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) ประจำปีการศึกษา 2563 ของโรงเรียน
วัดไตรสามัคคี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต ๒ ข้อมูลเบื้องต้นโรงเรียนวัดไตรสามัคคี จัดการศึกษา 2 ระดับ คือ ระดับการศึกษาปฐมวัย (อนุบาลปีที่ 1 - 3) และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
(ประถมศึกษาปีที่ 1 - 6) ซึ่งโรงเรียนได้ดำเนินงานระบบประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งการประเมินคุณภาพมาตรฐานเพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ระดับการศึกษาปฐมวัย ประกอบด้วย 3 มาตรฐาน ดังนี้ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประกอบด้วย 3 มาตรฐาน ดังนี้ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของนักเรียน มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนสำคัญ โดยมีผลการประเมินและผลการดำเนินงานดังนี้
ผลการประเมินคุณภาพมาตรฐานเพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา
1. ระดับการศึกษาปฐมวัย
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม
1. จุดเด่น
- เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกายดีขึ้น
- เด็กสามารถควบคุมการแสดงออกทางอารมณ์มากขึ้น
- เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองและรู้จักการทำงานร่วมกับผู้อื่นมากขึ้น
- เด็กมีทักษะการคิดและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีขึ้น
2. จุดที่ควรพัฒนา
- เด็กขาดความกล้าแสดงออกในการทำกิจกรรม
- เด็กขาดระเบียบวินัยในตนเอง
- ส่งเสริมให้เด็กมีสุขนิสัยในการรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่
3. แผนการดำเนินการในอนาคต
- มีการวิเคราะห์ผู้เรียนก่อนจัดการเรียนการสอนแต่ละภาคเรียนเพื่อให้ทราบข้อมูล
พื้นฐานของนักเรียนสามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล
- ให้เด็กได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมจัดการเรียนการสอนโดยความสนใจของเด็กและ
ให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติได้จริง
- ให้เด็กได้เรียนจากแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นของตนเองและภูมิปัญญาท้องถิ่นของตนมากขึ้น
- ควรจัดหาแหล่งเรียนรู้ที่ทันสมัยให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเองได้ตลอดเวลา
- มีการประเมินพัฒนาการให้ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและ
สติปัญญา
- นำสื่อเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนการสอนให้มากขึ้น
- ปลูกฝังระเบียบวินัยให้เกิดกับเด็กเพื่อให้เด็กรู้จักการรอคอยมากขึ้น
- ครูควรศึกษาเทคนิคการสอนหลายๆรูปแบบ เพื่อนำมาจัดการเรียนการสอนที่หลากหลาย
และเด็กได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมมากขึ้น
- วิเคราะห์ผลการประเมินและนำข้อมูลมาจัดทำวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาและแก้ปัญหา
ที่เกิดจากการจัดการเรียนการสอน
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม
1. จุดเด่น
- การจัดบุคลากรให้ตรงตามวิชาเอก
- มีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดไว้อย่างชัดเจน
- สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ
- การดำเนินงานพัฒนาวิชาการเน้นคุณภาพของผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาและ
ทุกกลุ่มเป้าหมาย
2. จุดที่ควรพัฒนา
- ครูและบุคลากรบางส่วนยังขาดประสบการณ์และความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ
- ระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษายังขาดความคล่องและการกระจายอำนาจ
- ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ยังขาดการ
เชื่อมโยงและนำมาใช้ได้อย่างไม่ราบรื่น มีการบันทึกข้อมูลซ้ำซ้อน ไม่สามารถเรียกใช้ข้อมูลได้
อย่างรวดเร็ว และขาดความถูกต้องแม่นยำ
3. แผนการดำเนินการในอนาคต
- พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพมากยิ่งขึ้นโดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานร่วมกัน และจัดโครงการอบรมเพื่อพัฒนาความรู้มากยิ่งขึ้นรวมทั้งครูได้เรียนรู้งานที่หลากหลาย
- ยกระดับระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาให้มีความความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นให้
หัวหน้าฝ่ายมี อำนาจในการวางแผนและตัดสินใจในการดำเนินงานตามแผนงานที่วางไว้ให้อย่างรวดเร็ว
ทันกับสถานการณ์
- ควรจัดทำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้
โดยฝ่ายต่าง ๆ ควรจัดทำข้อมูลอย่างรอบด้านและรวมเก็บไว้ที่ส่วนกลางของโรงเรียน เช่น รวมไว้ที่งานสารบรรณ หรือธุรการให้ผู้สอนสามารถนำข้อมูลไปใช้พัฒนาผู้เรียนได้อย่างรวดเร็ว ราบรื่น ไม่มีการบันทึกข้อมูลซ้ำซ้อน ให้สามารถเรียกใช้ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้องและแม่นยำ
มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม
1. จุดเด่น
- ครูผู้สอนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบเรียนปนเล่น (Play & Learn) เพื่อดึงดูดความ
สนใจของเด็ก
- ครูผู้สอนเปิดโอกาสให้เด็กได้เล่นและลงมือปฏิบัติด้วยตนเองในทุกกิจกรรม
- ครูเปิดโอกาสให้เด็กเลือกทำกิจกรรมตามความต้องการและความสนใจของตนเอง
- ครูผู้สอนจัดบรรยากาศในชั้นเรียนที่เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอนและกระบวนการเรียนรู้
ของผู้เรียน
- ครูผู้สอนจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ Active Learning
2. จุดที่ควรพัฒนา
- การผลิต จัดหาสื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ของผู้เรียน
3. แผนการดำเนินการในอนาคต
- สนับสนุนงบประมาณเพื่อใช้ผลิตสื่อ จัดทำเทคโนโลยีสารสนเทศ และพัฒนาแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อ
ต่อการเรียนรู้ภายในโรงเรียนให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้เรียนและผู้สอนให้มากขึ้น
- สาระการเรียนรู้ที่ต้องฝึกทักษะ กระบวนการและความชำนาญ ควรจัดการเรียนรู้ผ่าน
สรุปผลภาพรวมของสถานศึกษา ระดับการศึกษาปฐมวัย อยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม
2. ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของนักเรียน มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม
1. จุดเด่น
- ผู้เรียนอ่านหนังสือออกและอ่านคล่อง รวมทั้งสามารถเขียนเพื่อการสื่อสารได้ทุกคน สามารถใช้เทคโนโลยีในการแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเอง ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนอยู่ในระดับสูงกว่ามาตรฐาน มีผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2563 คะแนนเฉลี่ยรวม
ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้สูงกว่าระดับประเทศ และ สูงกว่า ปีการศึกษา 2562
- ผู้เรียนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีสมรรถภาพทางกายและน้ำหนักส่วนสูง ตามเกณฑ์โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับเพชรเป็นปีที่ ๒
- ผู้เรียนมีระเบียบวินัย จนเป็นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา เป็นที่ยอมรับของชุมชนในเรื่องความ
มีวินัย การเคารพกฎระเบียบของโรงเรียน ซึ่งบัญญัติไว้ในคู่มือนักเรียน
- ผู้เรียนมีความสามารถด้านการกีฬาเพิ่มมากขึ้น ได้รับการส่งเสริมเข้าร่วมแข่งขันกีฬา กรีฑานักเรียนในระดับต่างๆ จนได้รางวัลมากมาย
- ผู้เรียนมีความสามารถด้านการแสดงออกมีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น ได้รับการสนับสนุนให้ร่วมงานพิธีต่าง ๆ ทั้งภายในและนอกสถานศึกษา
- ผู้เรียนมีความสุข สนุกสนานกับการเรียน การกีฬา และการทำกิจกรรม
- ผู้เรียนมีความซื่อสัตย์
- ผู้เรียนมีความสามารถในการอ่าน และการคิดคำนวณ
- ผู้เรียนมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- ผู้เรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมวันสำคัญต่างๆ ทั้งที่โรงเรียนและหน่วยงานภายนอกจัดขึ้นเป็นประจำ
2. จุดที่ควรพัฒนา
- ผู้เรียนในระดับชั้น ป.1 – ป.6 ยังต้องเร่งพัฒนาด้านการนำเสนอ การอภิปรายและแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างสมเหตุสมผล พัฒนาทักษะการพูด และการกล้าแสดงออกให้มากยิ่งขึ้น และต้องพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาตามสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม
- ผู้เรียนต้องเน้นการอ่านคล่อง การเขียนคล่องและสวย และฝึกการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์
- ผู้เรียนส่วนใหญ่ขาดนิสัยรักการอ่าน ทำให้ขาดทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
- ผู้เรียนบางคนขาดความรับผิดชอบในการทำงาน
- ผู้เรียนบางคนขาดจิตสำนึกต่อการรักษาสมบัติของส่วนรวม
- ผู้เรียนหลายคนขาดเรียนบ่อยทำให้มีผลต่อการเรียน
3. แผนการดำเนินการในอนาคต
โรงเรียนมีแผนงาน/โครงการ 15 โครงการในปีการศึกษา 2564 เพื่อยกระดับคุณภาพนักเรียน และ
มีงาน/กิจกรรมของกลุ่มงานบริหารวิชาการ มากกว่า 58 งาน เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือการดำเนินงานการจัดการเรียนการสอนของครูและนักเรียน สรุปพอสังเขป ดังนี้
- การวิเคราะห์ผู้เรียนก่อนการจัดการเรียนการสอนแต่ละภาคเรียน เพื่อให้ทราบข้อมูลพื้นฐาน
ของนักเรียนสามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนองความแตกต่างระหว่างบุคคล
- การนิเทศติดตาม การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้
- ให้ผู้เรียนได้เรียนจากแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นของตนเองและภูมิปัญญาท้องถิ่นมากขึ้น
- การปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน และควรจัดหาแหล่งเรียนรู้ที่ทันสมัยให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง
- นำสื่อเทคโนโลยีมาใช้ในการสอนมากขึ้น
- ศึกษาเทคนิคการสอนหลายๆรูปแบบ และนำมาใช้อย่างหลากหลายเพื่อไม่ให้นักเรียนเกิดความเบื่อ
- ปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับนักเรียน เพื่อให้นักเรียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้
- วิเคราะห์ผลการประเมิน และนำข้อมูลมาจัดทำวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาและแก้ปัญหาที่เกิดจากการจัดการเรียนการสอน
- มีการวัดและประเมินผลครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน คือ ความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามสภาพจริง
- ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม หลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
- ติดตามประเมินแก้ปัญหาด้านสุขภาวะทางร่างกายและจิตสังคมในนักเรียนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม
1. จุดเด่น
สถานศึกษามีการบริหารและการจัดการอย่างเป็นระบบ สถานศึกษาได้ใช้เทคนิคการประชุม ที่หลากหลายวิธี เช่น การประชุมแบบมีส่วนร่วม การประชุมกลุ่ม เพื่อให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมายที่ชัดเจนและสอดคล้องกับความต้องการของชุมชน มีการปรับแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปีที่สอดคล้องกับผลการจัดการศึกษา สภาพปัญหา ความต้องการพัฒนา และนโยบายการปฏิรูปการศึกษาที่มุ่งเน้นการพัฒนาให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา มีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอน ครูผู้สอนจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพ มีการดำเนินการนิเทศ กำกับ ติดตามประเมินผลการดำเนินงาน และจัดทำรายงานผลการจัดการศึกษาสถานศึกษา มีคำสั่งแต่งตั้งผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานแต่ละด้านอย่างครบถ้วนและเหมาะสม มีการดำเนินงานพัฒนาวิชาการเน้นคุณภาพของผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาและ
ทุกกลุ่มเป้าหมาย
2. จุดควรพัฒนา
- การเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นในการจัดการศึกษา เพื่อพัฒนา
ผู้เรียนให้แสดงความคิดเห็น ร่วมวางแผน ร่วมลงมือทำ และร่วมสรุปผล
- สร้างเครือข่ายความร่วมมือของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาของโรงเรียนให้มีความเข้มแข็ง
มีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อผลการจัดการศึกษา และการขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษา
- มีการจัดกิจกรรมร่วมกันของโรงเรียนและชุมชน เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างโรงเรียน
และชุมชน
- ครูและบุคลากรยังขาดความชำนาญทางวิชาชีพ
- ระบบบริหารจัดการคุณภาพการศึกษายังขาดความคล่องตัว ควรยกระดับการนิเทศติดตามการดำเนินงาน 58 งาน กลุ่มบริหารงานวิชาการ โดยเน้นคุณภาพของผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษา
และทุกกลุ่มเป้าหมาย
- ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ยังขาดการ
เชื่อมโยง และการนำมาใช้ยังไม่ราบรื่น ยังมีการบันทึกข้อมูลซ้ำซ้อน ไม่สามารถเรียกใช้ข้อมูลได้
อย่างรวดเร็ว และขาดความถูกต้องแม่นยำ
- ครูและบุคลากรขาดความเชี่ยวชาญในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี
- ควรมีกระบวนการในการนิเทศติดตามผลการดำเนินงานในทุกๆภารกิจงานอย่างสม่ำเสมอและ
รายงานผลที่แท้จริง
- สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคม โดยเฉพาะในห้องเรียนและห้องประกอบต่างๆ บางห้อง
ยังไม่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพได้
- มาตรฐานคุณภาพห้องเรียนยังไม่เป็นเอกภาพและการนิเทศติดตามชั้นเรียนขาดความต่อเนื่อง
3. แผนการดำเนินการในอนาคต
- พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพและความเชี่ยวชาญในการใช้
เทคโนโลยีมากขึ้น โดยแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานร่วมกันและหลากหลายไม่จำเจ ได้เรียนรู้งานใหม่ ๆ
- ยกระดับการพัฒนาการบริหารการจัดการคุณภาพการศึกษาให้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น
- ใช้กระบวนการทำงานที่เป็นระบบ มีขั้นตอนและแนวทางที่ชัดเจนในการดำเนินงาน
- จัดทำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้
โดยฝ่ายต่างๆ ต้องจัดทำข้อมูลอย่างรอบด้านและรวมเก็บไว้ที่ส่วนกลางของโรงเรียน เช่นรวมไว้ที่งานสารบรรณหรืองานธุรการให้ผู้สอนสามารถนำข้อมูลไปพัฒนาผู้เรียนได้อย่างรวดเร็ว ราบรื่น ไม่มีการบันทึกข้อมูลซ้ำซ้อนให้สามารถเรียนใช้ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้องแม่นยำ
- ยกระดับมาตรฐานคุณภาพห้องเรียนและมีการนิเทศติดตามชั้นเรียนอย่างต่อเนื่อง
- ควรจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ
โดยเฉพาะภายในห้องเรียน และห้องประกอบการจัดการเรียนรู้เป็นสำคัญ
มาตรฐานที่ 3 กระบวนการการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนสำคัญ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม
1. จุดเด่น
- ครูมีความตั้งใจ มุ่งมั่นในการพัฒนาการสอนโดยจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้โดยการคิด
ได้ปฏิบัติจริง มีการให้วิธีการ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ค้นคว้าหาข้อมูลด้วยตัวเอง ได้ลงมือปฏิบัติ ได้ร่วมทำงานเป็นกลุ่ม โดยครูคอยเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำเมื่อนักเรียนเกิดข้อสงสัยและให้คำแนะนำเพิ่มเติมแก่นักเรียน ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงออกอย่างเต็มที่ ให้นักเรียนกล้าคิด กล้าแสดงความสามารถของตนเอง นักเรียนแสวงหาความรู้จากสื่อเทคโนโลยีด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้
- มีการบริหารจัดการในเชิงบวก
- มีการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ การจัดบรรยากาศห้องเรียนให้เหมาะสมแก่การเรียนรู้
- มีการตรวจสอบการประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียน
- มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้
- มีการจัดซื้ออุปกรณ์ด้านการเรียนที่ส่งเสริมต่อการเรียนรู้ของนักเรียน
2. จุดที่ควรพัฒนา
- คณะครูควรเข้าร่วมการอบรมการพัฒนาศักยภาพด้านการทำงานวิจัยในเรื่องนวัตกรรม
เพื่อพัฒนาคุณภาพด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีการใช้สื่อที่หลากหลายในการสอนและมีความเหมาะสมกับวัยและเนื้อหาที่ใช้สอน พร้อมทั้งพัฒนาในเรื่องหลักสูตรโดยการเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรบูรณาการท้องถิ่นให้เห็นเด่นชัดในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับท้องถิ่นรักในท้องถิ่นสามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้นอกจากนี้ควรส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักใช้เทคโนโลยีในการค้นคว้าเพื่อการเรียนให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อยกผลระดับทางการเรียน
- การผลิต จัดหา สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ของผู้เรียนและผู้สอน
- จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid-19) ทำให้การจัดการ
เรียนรู้ยังไม่ส่งเสริมกระบวนการคิดและปฏิบัติจริงเท่าที่ควร
- เน้นการเรียนการสอนแบบ Active Learning เพื่อให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติและพัฒนากระบวน
การคิด
3. แผนการดำเนินการในอนาคต
- สนับสนุนงบประมาณเพื่อผลิตใช้สื่อ จัดทำเทคโนโลยีสารสนเทศ และพัฒนาแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อ
ต่อการเรียนรู้ภายในโรงเรียนให้พอเพียงต่อความต้องการของผู้เรียนและผู้สอนให้มากขึ้น
- ส่งเสริมการฝึกทักษะกระบวนการคิดอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านกระบวนการเรียนรู้ทุกกลุ่มสาระ
- จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โดยเน้นฝึกความรับผิดชอบ ความเป็นระเบียบเรียบร้อย สอดคล้อง กับคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของสถานศึกษาและสังคมโลก
- จัดกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ที่ฝึกความถนัดด้านศิลปะหัตกรรม ความถนัดทางวิชาชีพและความเป็นเลิศทางวิชาการและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยให้เด็กเรียนรู้ตามเวลาที่กำหนดให้ครบถ้วน
- ควรสร้างจุดเด่นให้เกิดกับผู้เรียนจนเป็นเอกลักษณ์หรือเกิดเป็นผลผลิตที่จับต้องได้ออกสู่ชุมชน
- สาระการเรียนรู้ที่ต้องฝึกทักษะกระบวนการและความชำนาญควรจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง ให้นักเรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้
สรุปผลภาพรวมของสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน อยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม
ลงชื่อ ภูวดล เม่งช่วย
(นายภูวดล เม่งช่วย)
ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดไตรสามัคคี
|